สารต้านอนุมูลอิสระคืออะไรกันแน่?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า “อนุมูลอิสระ” คืออะไร อนุมูลอิสระคือสิ่งที่เกิดขึ้นในกระบวนการเผาผลาญสารอาหารภายในร่างกายโดยในกระบวนการนั้นจำเป็นต้องใช้ออกซิเจนเป็นส่วนประกอบ และจะเกิดออกซิเจนที่มีประจุลบ เมื่ออนุมูลอิสระเกิดขึ้นมาแล้วก็จะไปรวมตัวกับสารบางชนิดในร่างกายคนเรา สร้างเป็นสารพิษบางอย่างขึ้นมา โดยสารพิษเหล่านั้นจะไปทำลายเนื้อเยื่อ หรือไม่ก็อาจจะไปทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลทางพันธุกรรมภายในเซลล์ และนั่นจะทำให้เซลล์ดังกล่าวมีสภาพผิดปกติไปกลายเป็นเซลล์มะเร็งในเวลาต่อมา ซึ่งหากเราจะบอกว่าอนุมูลอิสระนี้เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคมะเร็งก็คงไม่ผิดทีเดียว
สำหรับอนุมูลอิสระนั้นนับว่าเป็นอนุภาคที่ไม่คงตัว นั่นจึงทำปฏิกิริยากับโมเลกุลที่อยู่ติดกันได้อย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นลักษณะเหมือนลูกโซ่ ซึ่งจะทำให้เกิดปฏิกิริยาที่เรียกว่า “ออกซิเดชั่น” (Oxidation)ขึ้นมา นั่นจะยิ่งจะทำให้เซลล์ในร่างกายถูกทำลายเป็นวงกว้างยิ่งขึ้นไปอีก นั่นหมายความว่าเป็นอันตรายต่อร่างกายมากยิ่งขึ้นไปด้วย การเกิดอนุมูลอิสระนอกจากจะเกิดจากกระบวนการเผาผลาญสารอาหารในร่างกายของคนเราแล้ว ยังสามารถเกิดจากการติดเชื้อทั้งจากแบคทีเรียและไวรัสได้อีกด้วย รวมไปถึงการอักเสบแบบไม่ทราบสาเหตุ อย่าง ข้ออักเสบรูมาตอยด์ จากรังสี เป็นต้น
อีกทั้งสิ่งแวดล้อมที่เป็นมลพิษก็เป็นสาเหตุได้เช่นกันอย่างเช่น ควันเสีย เขม่าจากเครื่องยนต์ควันบุหรี่ ยาฆ่าแมลง และการออกกำลังกายที่เกินกำลัง อย่างที่เราพอทราบมาก่อนแล้วว่า อนุมูลอิสระจะไปเปลี่ยนแปลงเซลล์ในร่างกายให้เกิดความผิดปกติ โดยกระบวนการนี้ สารอนุมูลอิสระจะทำปฏิกิริยากับรหัสพันธุกรรมดีเอ็นเอในนิวเคลียสของเซลล์ เสี่ยงต่อการกลายเป็นเซลล์มะเร็งมาก นอกจากนั้น อาจจะทำเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด เป็นสาเหตุทำให้ไขมันสะสมในหลอดเลือด จนนำไปสู่โรคร้ายหลายๆ ชนิด อย่างโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมองแตกหรือตีบ โรคต้อกระจก โรคข้ออักเสบ เป็นต้น
อันที่จริงแล้วการเกิดอนุมูลอิสระนั้นเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในร่างกายคนเราอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อร่างกายมีธาตุเหล็ก ทองแดง แมงกานีสโคบอลต์ โครเมียม นิเกิล ในปริมาณที่น้อยด้วยแล้ว เมื่ออนุมูลอิสระเกิดขึ้นในร่างกายก็จะถูกกำจัดออกมาจากร่างกายจนสิ้นแต่หากว่าร่างกายเกิดรับอนุมูลอิสระจากภายนอกเข้าไปสู่ร่างกายก็จะทำให้อนุมูลอิสระในร่างกายนั้นมีมากเกินกว่าที่จะกำจัดทิ้งออกมาได้นั่นจึงทำให้อนุมูลอิสระนั้นยังคงค้างในร่างกายนั่นเอง
สำหรับ “สารต้านอนุมูลอิสระ” (Antioxidant) เป็นสารประกอบที่สามารถป้องกันหรือชะลอกระบวนการเกิดออกซิเดชั่น ซึ่งในที่นี้เราจะมุ่งเน้นในเรื่องการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นในร่างกายคนเราที่มีสาเหตุการเกิดหลายๆ แบบด้วยกัน สิ่งที่เราต้องรู้อย่างหนึ่งก็คือ อนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกายเรานั้นมีด้วยกันหลากหลายแบบ ซึ่งไม่มีสารต้านอนุมูลอิสระชนิดใดที่สามารถป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นได้ทั้งหมด ดังนั้นการหยุดอนุมูลอิสระให้ได้ทั้งหมด จำเป็นต้องใช้สารต้านอนุมูลอิสระที่แตกต่างกันไป
สารต้านอนุมูลอิสระนั้นได้รับการยืนยันจากงานวิจัยหลายๆ ชิ้นแล้วว่าสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคร้ายหลายชนิด โดยเฉพาะโรคเรื้อรังที่สัมพันธ์กับอาหาร อย่างเช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคสมอง เป็นต้น นอกจากนั้นที่สำคัญยังช่วยชะลอความแก่ของร่างกาย นั่นเป็นเพราะว่าสารต้านอนุมูลอิสระจะไปจัดการอนุมูลอิสระเสียก่อนที่จะไปทำลายเซลล์ในร่างกายของคนเราให้เสื่อมโทรมไป อีกทั้ง ยังไปชะลอการสร้างอนุมูลอิสระภายในร่างกายอีกด้วย นั่นถือว่าเป็นการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระทั้งสองทางทีเดียว
สารต้านอนุมูลอิสระนั้นเราสามารถหาได้จากอาหารหลายๆ ประเภท ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ สารอาหารเหล่านั้นจะทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเมื่อร่างกายเรารับเข้าไป โดยสารดังกล่าวมีดังต่อไปนี้
– วิตามินอี ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่ดี พบมากในน้ำมันงาดำ น้ำมันจากรำข้าว จมูกข้าวสาลี น้ำมันดอกทานตะวันน้ำมันข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกคำฝอย เมล็ดทานตะวันเมล็ดอัลมอนด์ จมูกข้าวสาลี เป็นต้น
– วิตามินเอ พบมากในตับหมู ตับไก่ ไข่โดยเฉพาะไข่แดง น้ำนมพืชผักที่มีสีเขียวเข้ม ผลไม้ที่มีสีเหลืองส้ม เช่น ผักตำลึง ผักกวางตุ้งผักบุ้ง ฟักทอง มะม่วงสุก มะละกอสุก มะเขือเทศ เป็นต้น
– วิตามินซี พบมากในพืชผักผลไม้อย่าง ฝรั่ง ส้ม มะขามป้อมมะละกอสุก พริกชี้ฟ้าเขียว บร็อกโคลี ผักคะน้า ยอดสะเดา ใบปอผักหวาน ผักกาดเขียว เป็นต้น
– ซีลีเนียม พบมากในอาหารทะเล ปลาทูน่า เนื้อสัตว์ ตับ บะหมี่ไก่ ปลา ขนมปังโฮลวีท เป็นต้น
– แคโรทีนอยด์ ประกอบไปด้วย เบต้าแคโรทีน ลูทีน และไลโคปีน มีมากในผักที่มีสีเขียวเข้ม ผลไม้ที่มีสีเหลืองส้ม เช่น ผักตำลึง ผักกวางตุ้งผักบุ้ง ฟักทอง มะม่วงสุก มะละกอสุก มะเขือเทศ เป็นต้น
สำหรับสารต้านอนุมูลอิสระนั้น เป็นสารที่ช่วยชะลอให้ความเสียหายที่จะเกิดจากอนุมูลอิสระช้าลงได้ แต่สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นมาแล้วไม่สามารถแก้ไขให้เหมือนเดิมได้ ยิ่งโรคเรื้อรังที่เกิดมานานหลายๆ ปีแล้ว ย่อมมีความเสียหายในระดับเซลล์เป็นจำนวนมาก ดังนั้น การกินสารต้านอนุมูลอิสระจึงเป็นสิ่งที่ควรทำเสียแต่เนิ่นๆ จึงจะเกิดผลดีที่สุด เซซามิกซ์ และ เซซามิกซ์-แซด มีสารเซซามีนและวิตามินอีที่สูง และสารอาหาร แร่ธาตุ วิตามินอีกหลายชนิด ที่ใช้ต้านอนุมูลอิสระได้ดี จึงเป็นคำตอบที่ดีว่า ทำไมคนที่กินเซซามิกซ์เป็นประจำ ถึงสุขภาพดีเยี่ยม ไม่เจ็บไม่ป่วยง่าย และดูอ่อนเยาว์กว่าวัยมาก